ตู้ FHC (Fire Hose Cabinet) หรือ ตู้เก็บสายดับเพลิง เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในการรับมือกับเหตุการณ์อัคคีภัย โดยเฉพาะในสถานที่ทำงานหรืออาคารสูง ซึ่งการตรวจสอบสภาพของตู้ FHC อย่างสม่ำเสมอ เป็นขั้นตอนสำคัญในการเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้
ในบทความนี้เราจะมาพูดถึง ขั้นตอนการตรวจสอบตู้ FHC อย่างละเอียด เพื่อให้คุณสามารถตรวจสอบอุปกรณ์นี้ได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน
1. ตรวจสอบสภาพของตู้ FHC
การตรวจสอบตู้ FHC เริ่มต้นจากการตรวจสอบสภาพภายนอกของตู้ ซึ่งต้องมั่นใจว่าไม่มีการแตกหักหรือเสียหาย ตู้ควรอยู่ในสภาพดี ไม่มีการบุบหรือบิดเบี้ยวที่อาจทำให้การใช้งานเป็นอุปสรรค
- ประตูตู้: ประตูต้องเปิด-ปิดได้อย่างราบรื่น ไม่มีการติดขัดที่อาจทำให้ไม่สามารถใช้งานในกรณีฉุกเฉิน
- ช่องระบายอากาศ: ควรตรวจสอบว่าไม่มีสิ่งอุดตันในช่องระบายอากาศ ซึ่งอาจทำให้การทำงานของตู้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
2. ตรวจสอบสายดับเพลิง
สายดับเพลิงที่เก็บอยู่ในตู้ FHC ถือเป็นอุปกรณ์หลักที่ใช้ในการดับเพลิงในกรณีเกิดเหตุอัคคีภัย ดังนั้นการตรวจสอบสายดับเพลิงต้องทำอย่างละเอียด
- สภาพสาย: สายต้องไม่แตก, รั่ว, หรือมีรอยขีดข่วนที่อาจทำให้การใช้งานไม่ปลอดภัย
- ความยาวของสาย: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสายมีความยาวเพียงพอที่จะเข้าถึงจุดต่างๆ ในพื้นที่ที่อาจเกิดไฟไหม้
- การเก็บสาย: สายควรจัดเก็บอย่างเรียบร้อยในตู้ ไม่มีการพันกันหรือถูกรัดแน่นเกินไป
3. ตรวจสอบหัวฉีดน้ำ (Nozzle)
หัวฉีดน้ำเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในการปล่อยน้ำจากสายดับเพลิงไปยังจุดที่เกิดไฟไหม้
- การทำงานของหัวฉีดน้ำ: ตรวจสอบว่าไม่มีการอุดตันในหัวฉีด และสามารถปรับทิศทางการฉีดน้ำได้
- สภาพหัวฉีด: หัวฉีดน้ำต้องไม่มีการสึกหรอหรือการเสียหายจากการใช้งาน
4. ตรวจสอบวาล์ว (Valve)
วาล์วเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ควบคุมการไหลของน้ำจากแหล่งน้ำสู่สายดับเพลิง การตรวจสอบวาล์วจึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญ
- การเปิด-ปิดวาล์ว: วาล์วต้องสามารถเปิดและปิดได้ง่ายและสะดวก ควรทดสอบการทำงานด้วยการหมุนหรือดึงเพื่อให้แน่ใจว่ามันไม่ติดขัด
- สภาพการทำงาน: ตรวจสอบการรั่วซึมที่วาล์ว ถ้าพบว่ามีการรั่วซึมหรือผิดปกติ ควรเปลี่ยนทันที
5. ตรวจสอบระบบน้ำ
ระบบน้ำในตู้ FHC มีบทบาทสำคัญในการดับเพลิง ดังนั้นการตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบน้ำทำงานได้ปกติเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
- แหล่งน้ำ: ควรตรวจสอบว่าแหล่งน้ำที่เชื่อมต่อกับตู้ FHC (เช่น บ่อเก็บน้ำหรือท่อประปา) ยังทำงานได้ดี และไม่มีการอุดตันหรือการรั่วซึม
- ความดันน้ำ: ตรวจสอบความดันน้ำเพื่อให้มั่นใจว่าน้ำที่ส่งออกจากหัวฉีดมีแรงดันเพียงพอที่จะดับไฟ
6. ตรวจสอบอุปกรณ์เสริม
นอกจากสายดับเพลิงและหัวฉีดน้ำแล้ว ตู้ FHC ยังมักจะมีอุปกรณ์เสริมอื่นๆ เช่น สายดึง (Pull station) หรือที่จับ (Handle) ที่ใช้ในการเปิดตู้ในกรณีฉุกเฉิน
- สายดึง (Pull station): ควรตรวจสอบว่าอุปกรณ์นี้สามารถดึงได้ง่ายและทำงานได้เมื่อมีการใช้งาน
- ที่จับและอุปกรณ์เสริม: ตรวจสอบว่าอุปกรณ์เสริมเหล่านี้อยู่ในสภาพดี และสามารถใช้งานได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุไฟไหม้
7. การบันทึกการตรวจสอบ
หลังจากที่ทำการตรวจสอบเสร็จสิ้น ควรบันทึกข้อมูลการตรวจสอบในบันทึกประจำวันหรือประจำเดือน เพื่อให้สามารถติดตามสถานะของอุปกรณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การบันทึกข้อมูลนี้จะช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบประวัติการซ่อมแซมหรือการบำรุงรักษา และทำให้ทราบถึงอุปกรณ์ที่อาจมีปัญหาหรือที่ต้องการการดูแลเพิ่มเติม
สรุป การตรวจสอบตู้ FHC เป็นกระบวนการที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะในสถานที่ที่มีความเสี่ยงจากอัคคีภัย การตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกอย่างอยู่ในสภาพดีจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้งานในกรณีฉุกเฉิน และช่วยป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายใหญ่จากไฟไหม้
อย่าลืมกำหนดเวลาในการตรวจสอบตู้ FHC อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้การทำงานของระบบดับเพลิงมีประสิทธิภาพและปลอดภัยที่สุดค่ะ
📞 สนใจบริการตรวจสอบระบบดับเพลิง ติดต่อ อีสเทิร์น กรุ๊ป จำกัด
📲 โทร: 086-309-7870 (คุณประสงค์)
📩 Line ID: 086-309-7870
#FHC #FireSafety #ตรวจสอบตู้FHC #FirePrevention #ความปลอดภัย